Workflow สำหรับธุรกิจที่มีการผลิตบนระบบ ERP

ERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning ซึ่งเป็นระบบการจัดการทรัพยากรขององค์กรโดยรวมที่ช่วยรวบรวมและบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจหลักๆ เช่น การผลิต, การเงิน, การขาย, การตลาด, และทรัพยากรบุคคล (HR) ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ข้อมูลไหลเวียนได้อย่างราบรื่นและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ผู้เขียนจะอธิบาย Workflow สำหรับธุรกิจที่มีการผลิต โดยแบ่งเป็นกระบวนการหลักๆ ที่เชื่อมโยงกับระบบ ERP ดังนี้


1. กระบวนการวางแผนการผลิต (Production Planning)
  • รับใบสั่งซื้อ (Sales Order): เริ่มต้นเมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า ทีมขายจะบันทึกข้อมูลคำสั่งซื้อในระบบ ERP ซึ่งจะกลายเป็นข้อมูลต้นทางของกระบวนการทั้งหมด
  • ตรวจสอบสินค้าคงคลัง (Inventory Check): ระบบจะตรวจสอบว่ามีวัตถุดิบหรือสินค้าพร้อมส่งหรือไม่
    • ถ้ามีสินค้าพร้อมส่ง: เข้าสู่กระบวนการจัดส่ง
    • ถ้าไม่มีสินค้าพร้อมส่ง: เข้าสู่กระบวนการวางแผนการผลิต
  • วางแผนความต้องการวัสดุ (Material Requirements Planning – MRP): ระบบจะคำนวณปริมาณวัตถุดิบและส่วนประกอบที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตตามใบสั่งซื้อ และเทียบกับวัตถุดิบที่มีอยู่
  • ออกใบสั่งผลิต (Production Order): เมื่อยืนยันความต้องการวัตถุดิบแล้ว ระบบจะสร้างใบสั่งผลิตเพื่อแจ้งให้ฝ่ายผลิตทราบว่าต้องผลิตอะไร จำนวนเท่าไหร่ และเมื่อไหร่

2. กระบวนการจัดซื้อ (Purchasing)
  • สร้างคำขอจัดซื้อ (Purchase Requisition): หากวัตถุดิบไม่เพียงพอ ระบบจะสร้างคำขอจัดซื้ออัตโนมัติหรือโดยพนักงานเพื่อแจ้งฝ่ายจัดซื้อ
  • ออกใบสั่งซื้อ (Purchase Order): ฝ่ายจัดซื้อจะตรวจสอบคำขอและส่งใบสั่งซื้อไปยังซัพพลายเออร์ที่เหมาะสม
  • รับสินค้า (Goods Receipt): เมื่อซัพพลายเออร์ส่งสินค้ามาถึง ฝ่ายคลังสินค้าจะรับเข้าและบันทึกข้อมูลในระบบ ERP ซึ่งจะอัปเดตปริมาณวัตถุดิบในสต็อกโดยอัตโนมัติ
  • ตรวจสอบและชำระเงิน (Invoice Verification & Payment): ฝ่ายบัญชีจะตรวจสอบใบแจ้งหนี้ (Invoice) ที่ได้รับจากซัพพลายเออร์และดำเนินการชำระเงินตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้

3. กระบวนการผลิต (Manufacturing)
  • เบิกวัตถุดิบ (Material Issue): ฝ่ายผลิตจะเบิกวัตถุดิบจากคลังสินค้าตามที่ระบุในใบสั่งผลิต
  • ผลิตสินค้า (Production Execution): กระบวนการผลิตจะเริ่มต้นขึ้น พนักงานจะบันทึกความคืบหน้าการผลิตในระบบ
  • รายงานผลการผลิต (Production Reporting): เมื่อผลิตเสร็จแล้ว พนักงานจะบันทึกจำนวนสินค้าที่ผลิตได้ ซึ่งระบบจะตัดยอดวัตถุดิบที่ใช้ไปและเพิ่มยอดสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) เข้าคลังสินค้าโดยอัตโนมัติ

4. กระบวนการคลังสินค้าและการจัดส่ง (Warehousing & Shipping)
  • รับสินค้าสำเร็จรูปเข้าคลัง (Finished Goods Receipt): สินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วจะถูกนำเข้าสู่คลังสินค้าและมีการบันทึกในระบบ ERP
  • จัดสินค้าตามคำสั่งซื้อ (Picking & Packing): เมื่อถึงกำหนดจัดส่ง ฝ่ายคลังสินค้าจะไปเบิกสินค้าตามใบสั่งซื้อ
  • จัดส่ง (Shipping): สินค้าจะถูกส่งออกจากคลังและข้อมูลการจัดส่งจะถูกบันทึกในระบบ ERP

5. กระบวนการขายและการเงิน (Sales & Finance)
  • สร้างใบแจ้งหนี้ (Invoicing): เมื่อสินค้าถูกจัดส่งแล้ว ระบบจะสร้างใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าโดยอัตโนมัติ
  • บันทึกการชำระเงิน (Payment Recording): เมื่อลูกค้าชำระเงินแล้ว ฝ่ายบัญชีจะบันทึกการชำระเงินในระบบเพื่ออัปเดตสถานะของลูกหนี้ (Accounts Receivable)
  • ออกรายงาน (Reporting): ระบบ ERP สามารถสร้างรายงานต่างๆ เช่น รายงานกำไร-ขาดทุน (P&L), งบดุล (Balance Sheet), และรายงานวิเคราะห์การขาย เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ

Workflow เหล่านี้จะทำงานร่วมกันในระบบ ERP เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันแบบ Real-time ทำให้ผู้บริหารสามารถตรวจสอบสถานะการผลิต, ยอดขาย, และสถานะการเงินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับองค์กร

Blog อื่นๆ

💡 ไขข้อสงสัย 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ PlanetOne ERP

💡 ไขข้อสงสัย 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ PlanetOne ERP

5 เรื่องของระบบ PlanetOne ERP ที่หลายคนสงสัย  ระบบคนไทยที่หลายคนอาจจะได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง และยังคงมีหลายคนยังสงสัยว่าระบบ PlanetOne ERP กับ BRID Systems อันไหนคือชื่อจริงๆ ของระบบกันแน่ และระบบ PlanetOne ERP คืออะไร บทความนี้จะไขข้อข้องใจว่า เราทำอะไรได้บ้าง   ระบบ…

PlanetOne ERP: การเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัดด้วย API 🚀 

PlanetOne ERP: การเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัดด้วย API 🚀 

ในยุคที่ข้อมูลคือขุมพลังและทุกธุรกิจต้องเร่งปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างรวดเร็ว ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือจัดการภายในอีกต่อไป แต่ต้องสามารถ เชื่อมต่อ และ สื่อสาร กับระบบภายนอกได้อย่างอิสระและราบรื่น  PlanetOne ERP ก้าวข้ามข้อจำกัดของระบบแบบเดิม ๆ ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้าง พร้อมมอบ อิสระแห่งการเชื่อมต่อ ผ่านการรองรับ API (Application Programming Interface) อย่างเต็มรูปแบบ  API คืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อ ERP?  API เปรียบเสมือน ล่ามแปลภาษา หรือ สะพานเชื่อม ที่ทำให้ซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและสั่งการทำงานระหว่างกันได้โดยตรง  สำหรับ PlanetOne ERP การมี API ที่เข้มแข็งและยืดหยุ่นถือเป็น หัวใจสำคัญ ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ:  รวมศูนย์ข้อมูล (Data Centralization): สามารถดึงข้อมูลสำคัญจากระบบ ERP ไปแสดงผล หรือใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ทันที เช่น ข้อมูลสต็อก, ข้อมูลลูกค้า, หรือข้อมูลการเงิน  ทำงานอัตโนมัติ (Automation): สามารถสร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติข้ามระบบได้ (Workflow Automation) โดยไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลซ้ำหลายครั้ง ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดและประหยัดเวลาอย่างมหาศาล  สร้างนวัตกรรม (Innovation): นักพัฒนาระบบสามารถใช้ API ของ PlanetOne ERP ในการสร้างแอปพลิเคชันใหม่ ๆ หรือฟีเจอร์เสริมที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณได้อย่างรวดเร็ว  อิสระแห่งการเชื่อมต่อของ PlanetOne ERP  PlanetOne ถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด “เชื่อมต่อทุกสิ่ง” (Connect Everything) ซึ่ง API ของระบบมีความโดดเด่นและยืดหยุ่นสูง:  1. การเชื่อมต่อกับระบบภายนอกที่หลากหลาย  PlanetOne API สามารถเชื่อมต่อกับ:  ระบบอื่นๆ เช่นระบบ CRM ระบบขนส่ง เพียงแค่ระบบที่คุณต้องการเชื่อมต่อกับเราอนุญาตให้เราเชื่อมต่อ ก็สามารทำได้อย่างอิสระ  เชื่อมกับเครื่องจักรในโรงงาน เช่นเครื่องชั่ง เครื่องจักรที่ใช้ผลิตในโรงงาน  2. ความยืดหยุ่นและความปลอดภัย  API ของ PlanetOne ERP มักจะมาพร้อมกับ เอกสารประกอบ (Documentation) ที่ชัดเจน ทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าใจวิธีการใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีระบบ การยืนยันตัวตน (Authentication) และ การเข้ารหัส (Encryption) ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะมีความปลอดภัยสูงสุด  3. สถาปัตยกรรมแบบเปิด (Open Architecture)  ด้วยโครงสร้างที่สนับสนุนการเชื่อมต่อแบบ Microservices หรือ RESTful API ทำให้การอัปเกรดหรือการเปลี่ยนแปลงในส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบ ERP จะไม่กระทบต่อการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกที่ใช้งาน API อยู่ ซึ่งมอบความ เสถียร และ ยืดหยุ่น ในระยะยาว  บทสรุป: อนาคตของธุรกิจอยู่ที่การผสานรวม  การเลือกใช้ PlanetOne ERP ไม่ใช่แค่การลงทุนในซอฟต์แวร์จัดการธุรกิจ แต่เป็นการลงทุนใน ศักยภาพของการเติบโตที่ไม่ถูกจำกัด  ด้วยพลังของ API ที่เชื่อมต่อได้อย่างอิสระ ธุรกิจของคุณจะสามารถหลอมรวมระบบที่เคยทำงานแยกกันให้กลายเป็น ระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่งและทำงานสอดประสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ …

เลือกระบบ ERP ที่ใช่! ดูได้จาก 4 องค์ประกอบสำคัญ

เลือกระบบ ERP ที่ใช่! ดูได้จาก 4 องค์ประกอบสำคัญ

ในยุคที่ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven) ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการทรัพยากรทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเงิน การผลิต การขาย ไปจนถึงทรัพยากรบุคคล อย่างไรก็ตาม การเลือกระบบ ERP ที่ “ดี” นั้นไม่ใช่แค่การเลือกซอฟต์แวร์ที่มีฟีเจอร์เยอะที่สุด แต่คือการเลือกเครื่องมือที่ ตอบโจทย์…

โปรแกรม ERP ที่ใช้ในโรงงาน: ทำไมต้องเป็นระบบ PlanetOne ERP?

โปรแกรม ERP ที่ใช้ในโรงงาน: ทำไมต้องเป็นระบบ PlanetOne ERP?

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในภาคการผลิต การใช้เครื่องมือบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นหัวใจสำคัญในการอยู่รอดและเติบโต ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) คือคำตอบที่ช่วยให้โรงงานสามารถบูรณาการทุกส่วนงานเข้าด้วยกัน และหากคุณกำลังมองหาระบบ ERP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจการผลิตในไทยอย่างแท้จริง PlanetOne ERP คือตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าพิจารณา ความท้าทายของโรงงานในปัจจุบันที่ ERP ช่วยแก้ไขได้ โรงงานอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะธุรกิจแบบ OEM (Original…

ERP กับสิ่งที่ไม่ควรทำหลังจากติดตั้งระบบ

ERP กับสิ่งที่ไม่ควรทำหลังจากติดตั้งระบบ

การติดตั้งระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญขององค์กร ที่มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และบูรณาการข้อมูลในทุกส่วนของธุรกิจให้เป็นหนึ่งเดียว อย่างไรก็ตาม การติดตั้งที่ประสบความสำเร็จเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ช่วงหลังการติดตั้ง (Post-Implementation) คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุด ที่จะตัดสินว่าองค์กรจะสามารถใช้ศักยภาพของระบบ ERP ได้อย่างเต็มที่หรือไม่ นี่คือ สิ่งที่องค์กรไม่ควรทำ โดยเด็ดขาดหลังจากติดตั้งระบบ ERP เสร็จสิ้น: 1….

ERP กับการแข่งขันในปี 2026: ผู้ให้บริการต้องปรับตัวอย่างไรถึงจะอยู่รอด

ERP กับการแข่งขันในปี 2026: ผู้ให้บริการต้องปรับตัวอย่างไรถึงจะอยู่รอด

ในปี 2026 ภูมิทัศน์ของเทคโนโลยีองค์กรกำลังถูกพลิกโฉมอย่างรุนแรง และระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจก็หนีไม่พ้นจากคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ การเข้ามาของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) ไม่ได้เป็นเพียง “ฟีเจอร์เสริม” อีกต่อไป…

Scroll to Top